1/30/2557

ใบหนาด นักเขียนผีผู้เป็นตำนานแห่งสยามประเทศ

ใบหนาด หรือณรงค์ จันทร์เรือง
ใบหนาด หรือณรงค์ จันทร์เรือง
ใบหนาด นักเขียนผีผู้เป็นตำนานแห่งสยามประเทศ

ชีวิตบนเส้นทางนักเขียนผีเจ้าของนามปากกาใบหนาด ผู้คุกคลีกับแวดวงหนังสือผีมากว่าค่อนชีวิต นับว่าเป็นต้นแบบสำหรับนักเขียนผีรุ่นใหม่ทั้งหลาย หากต้องการเดินทางสายนี้ต้องศึกษาชีวิตใบหนาดเอาไว้ และบทความนี้คัดลอกจากเว็บไซต์สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น ผู้จัดทำเว็บเพจนี้ได้ทำลิงก์เอาไว้ด้านล่าง หากสนใจกรุณาคลิกไปชมได้เลย ขอบคุณเจ้าของบทความคุณภาพมา ณ โอกาสนี้ด้วย

ใบหนาดเป็นนามปากกาของ ณรงค์ จันทร์เรือง ผู้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้สร้างสรรค์งานเขียนแนวสยองขวัญ อาถรรพ์ได้ดีที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ ใบหนาด หรือ ณรงค์ จันทร์เรือง มีผลงานมีแล้วกว่า 2,000 เรื่องกับการเดินทางบนสายสายน้ำหมึกนานกว่า 50 ปี ปัจจุบันเรื่องราวผีๆของใบหนาดยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย

อีก 2 ปีข้างหน้าอายุการเขียนหนังสือของใบหนาด จะครบ 50 ปี ขณะที่ปีหน้า นามปากกา"ใบหนาด" ที่ใช้ในการเขียนเรื่องผีของเขาก็จะมีอายุ 40 ปี

ปีนี้ พ.ศ. 2547 นักเขียนอาชีพที่ชื่อณรงค์ จันทร์เรือง อายุ 64 ปี ยังไม่เกษียณอายุจากงานเขียน ในวันที่ให้สัมภาษณ์เขาเล่าว่าเมื่อคืนทำงานเขียนถึงตี 4 !ใบหนาดผ่านการเขียนเรื่องสั้นมาแล้วกว่าสองพันเรื่อง และเรื่องผีอีกประมาณพันเรื่อง เรื่องท่องเที่ยว เรื่องบุคคล เรื่องขบขัน และเรื่องอื่นในนามปากกาอื่นอีกสารพัด ด้วยพรสวรรค์บวกโชคชะตาที่ชักนำให้ใบหนาดเข้าสู่เส้นทางนักเขียนตั้งแต่อายุ 15

"เขียนหนังสือตั้งแต่ พ.ศ. 2499 ครั้งแรกลงใน ศรีสัปดาห์ เป็นหนังสือแบบ ขวัญเรือน นอกจากนั้นยังเขียนลงใน สกุลไทย และ ดรุณสาร ซึ่งเป็นหนังสือเด็กค่ายสตรีสาร ส่วนมากเป็นเรื่องแม่บ้าน การเรือน เรื่องสั้น ยึดเป็นอาชีพไม่ได้ เขียนตั้งแต่เรียน ม.6 จนถึง ม.8 แล้วมาเขียนเรื่องยาวตอนอายุ 18-19 ที่เพลินจิตต์" ที่นี่เองเขามีรายได้จากการเขียนหนังสือกว่า 3 เท่าของค่าแรงบัณฑิตปริญญาตรีสมัยนั้น นี่เป็นเหตุผลสำคัญให้เขาหันหลังให้กับการเรียน แล้วมาเอาเอาดีในการเขียนหนังสืออย่างจริงจัง

ใบหนาดพูดย้อนอดีตให้ฟัง

"ปรกติผมได้เงินค่าขนมวันละ 10 บาท ข้าวแกงจานละ 2 บาท ผมลองเขียนเรื่องยาว 70 หน้าส่งไปให้บรรณาธิการเพลินจิตต์อ่านดู ปรากฎว่าใช้ได้ เขาก็ถามว่าจะขายเท่าไหร่ ผมก็บอกว่าแล้วแต่เขา เขาให้หน้าละ 5 บาท ได้มาครั้งแรก 350 บาท ดีใจมาก ต่อไปผมก็เขียนส่งให้เขาสัปดาห์ละ 60 หน้า ได้เดือนละ 1,200 บาท คนเรียนจบปริญญาตรีสมัยนั้นทำงานได้เงินเดือน 750 บาท เพื่อนผมก็เรียนกันอยู่ ต่อมาบรรณาธิการบอกว่าซื้อเครื่องพิมพ์ดีดมาพิมพ์งานสิ จะให้หน้าละ 10 บาท เท่านั้นแหละ สัปดาห์ละ 600 บาท กินเที่ยวเท่าไหร่ก็ไม่หมด ผมเลิกเรียนเพราะรายได้ดีเหลือเกิน แต่ก็เป็นอย่างนี้ได้ไม่นาน…"
  ปัจจุบันใบหนาด เขียนคอลัมน์ใน น.ส.พ.ข่าวสด และเรื่องผีในนามปากกา "ใบหนาด"เขาให้ความเห็นต่อกระแสความนิยมเรื่องผีว่า

"เรื่องผีไปได้เรื่อยๆ อยู่กับตลาดมาตลอด ตั้งแต่สมัยก่อน ทุกชาติภาษาชอบเรื่องผี มีทุกแบบทุกแนว หนังอาร์ตยังมีเลยผมเคยไปดู เฉพาะไทยเองหนังชุดแม่นากมีไม่ต่ำกว่า 10 เรื่อง แม่นากพระโขนง แม่นาคพระนคร แม่นากคืนชีพ เยอะแยะ…"

ใบหนาด
ตัวอย่างหนังสือผลงานของใบหนาด
ต่อคำถามถึงที่มาของนามปากกาใบหนาด

"ตอนนั้นเขียนหนังสือกึ่งอาชีพแล้ว ทำงานเป็นผู้ช่วยคุณประเสริฐ พิจารณ์โสภณ หน้าที่หลักคือตรวจปรู๊ฟ หนังสือชื่อ ขวัญจิต มีคอลัมน์ขวัญหาย ให้ผู้อ่านส่งเรื่องมาตีพิมพ์ ตอนหลังเริ่มไม่ไหว ผมคัด 2-3 เรื่องส่งไปให้คุณประเสริฐดู ก็ยอมรับว่าใช้ไม่ได้จริงๆ คุณประเสริฐรู้ว่าผมเคยเขียนเรื่องผีเรื่องยาวให้เพลินจิตต์ เรื่องวิญญาณพิศวาส คุณประเสริฐจึงให้ผมเขียนแทน เพราะว่าช่างพิมพ์รออยู่ ผมกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วก็เขียนเลย เรื่องวิญญาณห่วง ฉากที่อยุธยา เมื่อคุณประเสริฐได้อ่านก็บอกว่า เฮ้ย! ดีนี่ แปลกดี แปลกตรงที่ทั้งเรื่องไม่เห็นผีเลย แต่น่ากลัว เป็นเรื่องที่แม่เป็นห่วงลูกเล็กๆ 2 ขวบ

"พี่ประเสริฐก็ตั้งนามปากกาว่าใบหนาด เพราะแกรู้เรื่องต้นไม้เยอะ ใบหนาดเป็นใบไม้ที่ผีกลัว เป็นไม้พุ่ม 4- 5 เมตร ใบสาก เหมือนใบข่อยที่ใช้รูดเมือกปลาไหล ผีกลัวใบหนาดเพราะมันสาก มีความคัน คงกลัวความเจ็บปวด ไปตรงกับทางเหนือ หมอไล่ผีภาคเหนือใช้ใบหนาดในกรรมวิธีไล่ผี และความอัปมงคล เหมือนที่ภาคกลางใช้ใบมะยมไล่ผี…"

แล้วเรื่องผีของใบหนาดต่างจากเรื่องผีของคนอื่นอย่างไร ใบหนาดขยายความว่า

"เรื่องผีของใบหนาดจะเน้นรายละเอียด ให้ความสำคัญกับฉากมาอันดับหนึ่ง เช่นผมจะไม่เขียนอย่างนี้ 'ณ หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในภาคเหนือ มีผัวเมียคู่หนึ่ง…' เพราะมันเลือนลอยไม่สมจริง ผมจะเขียนว่า 'ณ หมู่บ้านดอยคำ ต.แสงงาม อ.ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่' อย่างแรกคนจะเชื่อว่าฉากนี้มีจริง คนเชียงใหม่จะเชื่อว่ามีจริงแต่อาจจะยังไม่เคยไป ส่วนคนจังหวัดอื่นจะคิดว่ามีจริงเช่นกัน เพราะถ้าไม่จริงคนเชียงใหม่คงโวยไปแล้ว เรื่องผีต้องอาศัยความสมจริง ทั้งๆเรื่องผีคือเรื่องหลอก"

ใบหนาดเล่าเรื่องผีหลอกจากประสบการณ์จริง

แม้ใบหนาดจะเป็นใบไม้ที่ผีกลัว แต่เขาก็เคยมีประสบการณ์ขนหัวลุกเพราะโดนผีหลอก

"เอาที่โดนเจ๋งๆเลย ผมโดนผีหลอกพร้อมสุวรรณี ช่วงนั้นเขายังเป็นอาจารย์ที่ศิลปากร วันนั้นเพื่อนๆไม่รู้ไปไหนหมด ผมจึงชวนเจ๊(สุวรรณีซึ่งอายุแก่กว่า 9 ปี)ไปดูหนังเรื่องด๊อกเตอร์ชิวาโกที่ลิโด ดูรอบ 1 ทุ่มเลิก 4 ทุ่ม ดูหนังเสร็จขับรถกลับบ้านถึงสามเสน ปรากฎว่าสุวรรณีทำกระดุมทองของแม่หายจึงกลับไปหาที่มหาวิทยาลัย ไม่พบ ก็คิดว่าคงหายที่โรงหนัง จึงกลับไปดู

"เมื่อขับมาแถวบริเวณถนนเทอดดำริ สมัยนั้นถนนกว้าง มีต้นมะขามทั้งสองข้าง เปลี่ยวมาก ไม่มีคนเลย แต่อยู่ๆก็มีสิบโทคนหนึ่งมายืนคอพับอยู่ที่บังโคลนขวา สุวรรณีอุทานออกมาว่า 'ไอ้เหี้ย' ผมว่า 'ไอ้สัตว์' ด้วยความตกใจ แล้วสุวรรณีก็เบรกห่างออกไป 2-3 เมตร หันหลังกลับไปปรากฎว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างหลังเลย ไม่มีทางที่จะหลบไปไหนได้ สุวรรณีไม่กล้าหันกลับไปมอง แต่ถามผมว่า 'เห็นไหม' ผมพยักหน้า โดนหลอกพร้อมกัน 2 คนเลย"

เมื่อถามถึงงานเขียนใบหนาดเล่าว่า เมื่อก่อนเขียนได้วันละ 3-4 บท เรื่องสั้น 3-4 เรื่อง แต่เดี๋ยวนี้ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะอายุเยอะแล้ว ส่วนใหญ่เขาจะเขียนหนังสือตอนกลางคืน บางสัปดาห์ไม่ได้หยุดเลย บางสัปดาห์หยุด 1-2 วัน เขาเขียนหนังสือในแบบที่ว่า

"ไม่เคยวางแผนการเขียนหนังสือ ทำอะไรได้ก็ทำ มีความสุขจากการเขียนหนังสือ…"

ผลงานที่ผ่านมาของใบหนาดได้แก่ แหวกม่านตู้กระจก เป็นสารคดี เรื่องเล่าเกี่ยวกับหมอนวด ลงใน เพนท์เฮาส์ ตามมาด้วย แหวกม่านม่านรูด แหวกม่านคาแฟ่ แหวกม่าน(คอกเทล)เลาท์

เขาเขียนเรื่องท่องเที่ยวต่างประเทศจากประสบการณ์ "โอลี่เที่ยว เที่ยวล้วนๆ(ไม่ได้ไปดูงานหรือไปเรียน )" กว่า 10 เล่ม และนามปากกาคริส สารคามใช้เขียนเรื่องเกี่ยวกับเกร็ดชีวิตนักเขียนตั้งแต่ อรวรรณ, สุวรรณี สุคนธา, อิศรา อมันตกุล, อุษณา เพลิงธรรม และหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมทย์

ใบหนาดเล่าว่า 30 ปีก่อน พลเมือง 25 ล้านคน คนหิวเรื่องสั้นมาก หนังสือพิมพ์ 5,000 เล่ม ถ้าไม่ถึงกับเขียนแย่มากจะขายได้หมด ไม่เหมือนกับปัจจุบัน ที่คนอ่านหนังสือน้อยลงเพราะมีสิ่งอื่นมาแย่งความสนใจไป ฉะนั้นเมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากจะยึดการเขียนหนังสือเป็นอาชีพ ใบหนาดบอกว่า

"อย่าเขียนเลย ไปทำมาหากินอย่างอื่นเถอะ ไม่สนุกหรอก แต่ถ้ารักชอบจริงๆก็จงเขียนไปเลย เขียนเข้าไป ๆ ๆ ๆ" ..

ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.praphansarn.com/new/c_talk/detail.asp?ID=132

ชื่อพุ่มไม้ที่มาของนักเขียนผีนามปากกาใบหนาด

ใบหนาด
ต้นหนาดที่มาของนักเขียนนามอุโฆษ
ต้นหนาดที่มาของนักเขียนนามอุโฆษ

ชื่อไม้พุ่ม (Blumea balsamifera DC. ในวงศ์ Compositac) มีหลายชนิด ชนิดที่ควรทราบ คือหนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า"หนาด" เฉยๆ เป็นไม้ล้มลุก ต้นสูงราว ๕-๖ ฟุต ใบใหญ่ยาวหนาคายเป็นขน มีกลิ่นหอมฉุน ดอกออกเป็นช่อ เป็นฝอย สีเหลือง พอแก่จัดเปลี่ยนเป็นสีขาว ใช้เป็นยาได้ ใบกลั่นได้น้ำมันแล้วทำให้แห้งจะตกเกล็ดเป็นพิมเสน เชื่อกันว่าเป็นไม้ที่ผีกลัวหนาดชนิดนี้ บางทีเรียกว่า หนาดหลวง

ทำไมผีกลัวใบหนาด เสฐียรโกเศศนักปราชญ์อันดับ 1 ด้านประเพณีไทยเขียนไว้ในหนังสือ"ประเพณีเนื่องในการตาย" ว่า

"...ถ้าเป็นเรื่องจะป้องกันผีกลับมา ใช้ใบหนาดเห็นจะดี เพราะถือว่าผีกลัวนัก แต่ทำไมผีจึงกลัว สอบถามก็ไม่ได้ความ ทราบเพียงว่ามีนวนิยายเก่าเรื่องอีนากพระโขนง ซึ่งออกลูกตายไปเป็นผีดุไล่ติดตามผัว ผัวหนีเข้าดงหนาด อีนากกลัวตามเข้าไปไม่ได้ ร้องรำพันว่า ผัวเข้าดงหนาด เมียจะขาดใจตาย ดั่งนี้ นอกจากใบหนาด ยังมีใบสาบแร้งสาบกาที่ผีกลัว เพราะใช้ปนเข้ากับใบหนาดและสิ่งอื่นๆ บรรจุเป็นหมอนปืน ยิงขับไล่ผีในพิธีตรุษของหลวง ใบสาบแร้งสาบกาผีกลัว ก็พอจะเดาได้เพราะกลิ่นของมันเหม็นเต็มที แต่ใบหนาดไม่เหม็นเช่นนั้น ถึงจะเหม็นก็เป็นอย่างการบูร หรือผีไม่ชอบกลิ่นเช่นนี้ด้วย เพราะได้ทราบว่า ตัวแมลงไม่เข้าใกล้ใบหนาด สำมะหาอะไรกับผีจะไม่กลัว..."

สรุปว่า ทำไมผีกลัวใบหนาดเพราะ ได้ยินได้ฟังมาจากตำนานเรื่องแม่นากพระโขนง และทึกทักเอาเองว่า ขนาดแมลงยังกลัวใบหนาด ผีก็คงกลัวใบหนาดด้วยเหมือนกัน

ประวัติย่อของ ใบหนาด
ณรงค์ จันทร์เรือง หรือใบหนาด
ณรงค์ จันทร์เรือง หรือใบหนาด
ใบหนาดเกิดเมื่อ 30 กรกฎาคม 2484 ที่กรุงเทพฯ เริ่มฉายแววนักเขียนเมื่อบทกลอนของเขาตีพิมพ์ในนิตยสารที่มียอดจำหน่ายสูงสุดชื่อศรีสัปดาห์ เมื่อปี พ.ศ.2499 สมัยนั้นนิตยสารฉบับนี้สร้างนักเขียนนามอุโฆษไว้ประดับบรรณพิภพเมืองไทยหลายคน เช่น สุภาว์ เทวกุลฯ กฤษณา อโศกสิน ทมยันตี ชูวงศ์ ฉายะจินดา เป็นต้น ใบหนาดต้องพยามอีกถึง 3 ปีถึงจะมีผลงานปรากฏในนิตยสารศรีสัปดาห์อีกครั้ง จุดนี้ถือเป็นด่านทดสอบสุดยอดสำหรับใบหนาดก็ว่าได้ เพราะกว่าจะกลายเป็นนักเขียนอาชีพในปัจจุบัน เส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ

ต่อมาใบหนาดมีผลงานมากมาย ทั้งเรื่องสั้นเรื่องยาว โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเรื่องผีและเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(surrealism) แต่ผลงานที่เขาภูมิใจที่สุด คือเรื่องสั้นได้ตีพิมพ์ในนิตยสารสยามรัฐรายสัปดาห์ เพราะสมัยนั้นนิตยสารนี้มีอุษณา เพลิงธรรมหรือประมูล อุณหธูป เป็นบรรณาธิการคัดเลือกสั้น และใบหนาดต้องมุมานะถึง 8 ปีกว่าจะผ่านการเกิดที่นี่ ถึงอย่างไรก็ถือเป็นการรอคอยที่แสนหวานสำหรับใบหนาด เพราะต่อมาเขาก็ได้รู้ว่าเรื่องใดควรเขียนและเรื่องใดควรหลีกเลี่ยง

จุดกำเนิดของนักเขียนเจ้าของนามปากกาใบหนาด

นักเขียนผีนามปากกาใบหนาดดังเป็นพลุแตกในปี พ.ศ.2512 เมื่อเขาเขียนนิยายเรื่องแรกชื่อเทพธิดาโรงแรม ตีพิมพ์ในนิตยสารฟ้าเมืองไทย ถึงขนาด ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล นำนิยายของใบหนาดดัดแปลงเขียนเป็นบทภาพยนตร์ และออกฉายเก็บเงินได้มากเป็นประวัติการณ์ แน่นอนว่าจุดนี้ทำให้ชื่อเสียงของใบหนาดเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ

ใบหนาดมีเพื่อนร่วมกอดคอกันมาอย่างเหนียวแน่น เช่น เสถียร จันทิมาธร บรรณาการนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ขรรชัย บุนปาน และสุจิตต์ วงศ์เทศ ทั้งสองคนนี้เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์มติชน และข่าวสด ในปัจจุบันใบหนาดก็ทำงานอยู่กับหนังสือพิมพ์สองฉบับนี้ โดยมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษ สำหรับใบหนาดเป็นคนมีความรอบรู้เรื่องการจัดทำหนังสือเหลือเฟือ เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยทำงานในโรงพิมพ์มาก่อน

ใบหนาดเป็นหนึ่งในจำนวนนักเขียนยุคแรกที่ร่วมก่อตั้งสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ถือเป็นนักเขียนอาชีพที่ทำงานเป็นตัวอย่างแก่ผู้ที่ต้องการเดินบนเส้นทางนักเขียน เพราะชีวิตของใบหนาดกว่าจะได้ลิ้มรสความหอมหวานของอาชีพนักเขียนก็ผ่านด่านทดสอบมาแล้วปี หากใบหนาดถ้อแท้ตั้งแต่เริ่มต้น แฟนนักอ่านเรื่องผีคงไม่มีโอกาสเห็นหนังสือผีดีๆจากปลายปากกาของใบหนาด