นิยายผี 5 เล่มในความทรงจำ เป็นเรื่องราวของผมที่ได้นิยายผีแต่ละเล่มเข้ามาในชีวิตการอ่านของผม แม้จะต่างกรรมต่างวาระแต่นิยายผีทุกเล่มก็อยู่กับผมตลอดมาและอาจจะตลอดไป เวลา 10 ปีที่ผ่านมา แม้ผมจะเดินทางไปไหนสถานที่ ก็ต้องติดนิยายผีไม่เล่มใดก็เล่มหนึ่งไปด้วยเสมอ ผมจึงมีความผูกพันกับนิยายผีเหล่านี้เหมือนเป็นเพื่อนสนิท ทุกครั้งที่อ่านนิยายผีจบในแต่ละเที่ยว สิ่งที่ได้รับคือบรรยากาศเก่าๆที่ผมผ่านมาในอดีต แน่นอนว่าอดีตเป็นสิ่งที่ผมโหยหา เพราะบางครั้งคนเราก็ต้องหลีกหนีบางสิ่งบางอย่างในปัจจุบัน เพื่อไปดื่มด่ำความหอมหวานของอดีต ผมอยากเชิญชวนผู้อ่านย้อนอดีตไปกับนิยายผีพร้อมกับผม
(1) นิยายผีชื่อ แรงอาฆาต (Accursed by Guy.N.Smith) แปลโดย สุวิทย์ ขาวปลอด
ผมซื้อนิยายผีเล่มนี้เมื่อปี พ.ศ.2542 ที่บูธร้านวรรณวิภาภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ตอนนั้นสถานที่จัดงานยังคงอยู่ข้างกระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบันย้ายไปจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผมซื้อนิยายผีเล่มนี้ราคา 20 บาท พร้อมกับนิยายผีอื่นๆอีกหลายเล่ม เพราะร้านวรรณวิภามีหนังสือแนวนี้เยอะมาก ผมหอบกลับที่พักหลายเล่มแต่หมดเงินไม่กี่บาท
ช่วงนั้นเศรษฐกิจกำลังซบเซาเพราะรัฐบาลประสบพิษฟองสบู่ ส่งผลให้สำนักพิมพ์ทั้งหลายต้องประคับประคองตัวเองด้วยการลดราคาหนังสือบางเล่ม เพื่อกระจายสินค้าออกจากโกดัง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักอ่านมีโอกาสซื้อหนังสือดีราคาประหยัดเก็บไว้อ่านกันข้ามปีทีเดียว ผมก็เลยได้รับอานิสงค์ด้วย เพราะตอนนั้นผมเพิ่งเข้าไปทำงานกรุงเทพฯ ไม่มีเงินเก็บมากนัก อาศัยที่ผมชอบอ่านหนังสือ ทำให้ต้องเจียดเงินส่วนหนึ่งไว้ซื้อหนังสืออ่าน แต่ก็ต้องย้ำเตือนตัวเองเสมอว่า จะซื้อเฉพาะหนังสือที่ต้องการอ่านจริงๆเท่านั้น ไม่ซื้อพร่ำเพรื่อเด็ดขาด
เหตุผลที่ผมซื้อนิยายผี แรงอาฆาต เพราะสะดุดตากับสัญลักษณ์ของความเป็นอิยิปต์ที่ปกนิยายผีเล่มนี้ ประจวบเหมาะช่วงนั้นผมเป็นโรคกระหายความรู้เกี่ยวกับดินแดนทะเลทรายอย่างแรง เห็นหนังสือหรือบทความใดๆเกี่ยวกับอิยิปต์ต้องอ่านให้ได้ ดังนั้นผมจึงมีนิยายผีทั้งไทยและเทศที่มีกลิ่นไอของความเป็นอิยิปต์หลายเล่ม แต่ที่โดดเด่นและชอบมากกว่านิยายผีอื่นใดก็คือนิยายผีเรื่อง แรงอาฆาต
![]() |
เจตภูตนรก (James Kahn based on a story by Steven Spielberg) แปลโดย กิจจา ตะเวทิพงศ์ำ |
ผมซื้อนิยายผีเล่มนี้ เมื่อปี พ.ศ.2542 ที่แผงหนังสือแบกะดินตลาดมืดคลองถม ผมจำได้ว่านิยายผีเล่มนี้ห่อถุงพลาสติกอวดปกอยู่พร้อมกับหนังสือเล่มอื่นจำนวนมาก แต่ก็ไม่พ้นสายตาของผมที่เสาะหานิยายผีเป็นอาชีพ ผมมักไปตลาดมืดคลองถมช่วงเย็นวันเสาร์เพื่อหาหนังสือดีๆราคาประหยัดตามสภาวะเงินในกระเป๋า ใจจริงผมก็อยากสนับสนุนหนังสือในร้านทั่วไปอยู่ แต่ราคาในร้านดังๆกับราคาแผงแบกะดินต่างกันลิบลับ ทำให้ผมต้องหันไปซื้อหนังสือตามตลาดนัดต่างๆแทน
นิยายผีชื่อ เจตภูตนรก ผมไม่เคยรู้จักเนื้อหามาก่อน เช่นเดียวกับนิยายผีเล่มอื่นๆ เพราะหนังสือประเภทนี้ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึง ผิดกับหนังสือประเภทอื่น ดังนั้นนักอ่านนิยายผีที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ต้องสืบเสาะหาอ่านกันเอาเอง หากพบนิยายผีที่ถูกใจก็ตัดสินใจซื้อทันทีเพราะไม่แน่ว่านิยายผีเล่มดังกล่าวจะอยู่ที่เดิมอีกหรือไม่ในวันถัดไป
นิยายผีชื่อ เจตภูตนรก เดินทางติดตามผมไปทุกที่ แม้ผมจะย้ายสถานที่ทำงานไปตรงไหนและไกลเพียงใด ผมต้องเอานิยายผีเล่มนี้ไปด้วยเช่นเดียวกับนิยายผีทั้ง 5 เล่มที่ผมกล่าวถึงทั้งหมด เพราะชีวิตผมขาดหนังสือไม่ได้ หากมีเวลาว่างแม้เพียงเศษเสี้ยวนาทีผมต้องล้วงหนังสือออกมาอ่าน พฤติกรรมอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ผมอ่านหนังสือประเภทวรรณกรรมไม่ค่อยได้ เพราะเวลาอ่านวรรณกรรมต้องใช้ความคิด บางทีต้องมีพจนานุกรมอยู่ข้างๆด้วย เพราะนักเขียนหนังสือประเภทวรรณกรรมชอบใช้คำศัพท์พะรุงพะรัง ผิดกับนิยายผีที่อ่านเอาความบันเทิงอย่างเดียว แต่หากมีเวลาเยอะผมก็อ่านหนังสือประเภทวรรณกรรมเหมือนกัน
![]() |
ท้าสู้ผีนรก (’Salem’s Lot by Stephen King) แปลโดย สุวิทย์ ขาวปลอด |
ผมซื้อนิยายผีเล่มนี้ เมื่อปี พ.ศ.2546 ที่ร้านหนังสือเล็กในตลาดรามฯ 2 ผมทราบเวลาและสถานที่ซื้อเพราะผมจดไว้เสมอ คงเหมือนนักอ่านทุกคนที่ซื้อหนังสือมาก็จะบันทึกเอาไว้ที่ไหนสักแห่งในหนังสือเล่มดังกล่าว ผมซื้อนิยายผีชื่อท้าสู้ผีนรก ราคา 20 บาท บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ไม่มีโอกาสอ่านเนื้อหาก่อนจ่ายเงิน แต่นิยายผีไม่ว่าเล่มไหนไม่เคยทำให้คนอ่านผิดหวัง เพราะนิยายผีก็คือนิยายผีต้องมีฉากและบรรยากาศของความกลัวอยู่ในเล่มเสมอ
นิยายผีเล่มนี้ก็เหมือนกัน ยิ่งเป็นผลงานของสตีเฟน คิง ยิ่งไม่ต้องใช้เวลาตัดสินใจมาก หากจดจ้องนานแล้วมีคนหยิบก่อนต้องเสียใจไปนาน เพราะส่วนมากนิยายผีราคาประหยัดไม่มีวางขายตามร้านหนังสือทั่วไป ดังนั้นนักอ่านเห็นนิยายผีที่ตัวเองชอบแล้วไม่ซื้อถือว่าคิดผิดถนัด เพราะผมมีประสบการณ์ผิดหวังจากนิยายผีหลายเล่ม กระทั่งทุกวันนี้ยังเสียดายไม่หาย
มนต์เสน่ห์ของนิยายผีมีทั้งตอนแสวงหามาอ่าน และยิ่งตอนอ่านก็มีมนต์ตรึงใจไม่แพ้กัน ผมเคยอ่านนิยายผีข้ามวันข้ามคืน จนลืมเวลาไปทำงานก็เคยมี ผมว่านักอ่านหลายคนคงเคยโดนกับตัวเองบ้าง ผมมีตัวอย่างนิยายผีที่ว่านี้อยู่หลายเล่ม และทั้ง 5 เล่มนี้ก็อยู่ในข่ายของระทึกขวัญชนิดวางไม่ลงเหมือนกัน
![]() |
ผีบ้าน 666 (666 by Jav Anson) แปลโดย อ.โรจนา |
ผมซื้อนิยายผีเล่มนี้ เมื่อ พ.ศ.2543 ที่แผงหนังสือแบกะดิน ตลาดนัดแถวอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ผมนั่งรถเมล์ไปพบโดยบังเอิญ เพราะกำลังต่อรถไปยังปลายทางแต่สายตาเหลือบไปเห็นกองหนังสือก็เดินตรงไปหาทันที ทั้งทีรถเมล์สายที่รอขึ้นกำลังจอดเทียบป้าย พอไปค้นกองหนังสือสักพักก็พบนิยายผีเล่มนี้
นักอ่านหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ค้นหาหนังสือในลักษณะวางกองสุ่มเหมือนเจดีย์ทราย ไม่ใช่อยู่บนชั้นวางเหมือนร้านหนังสือทั่วไป ผมสังเกตว่าตัวเองจะมีความสุขกับช่วงเวลานี้มาก เหมือนโลกหยุดหมุนและเวลาหยุดนิ่ง ใจจดจ่ออยู่ที่กองหนังสือตรงหน้าเหมือนกำลังค้นหาทองคำทีเดียว ในวันนี้ผมได้นิยายผีเล่มนี้มาในราคา 5 บาท ขอย้ำอีกทีว่า ราคา 5 บาท เพราะหนังสือตามตลาดนัดราคาไม่เกิน 10 บาท บางครั้ง 3 เล่ม 10 บาทก็เคยเห็นมาแล้ว หากผมเป็นเจ้าของหนังสือคงสะเทือนใจอยู่เหมือนกัน เมื่อเห็นหนังสือที่ตัวเองทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตเขียนจนสำเร็จ กลับตกอยู่ในสภาพสิ่งไร้ค่า
ถึงอย่างไรหนังสือที่ตกอยู่ในสภาพดังกล่าว ก็ใช่ว่าจะเลวร้ายไปหมด อย่างน้อยถือเป็นการกระจายหนังสือไปสู่ผู้มีรายได้น้อย ให้เขาเหล่านั้นได้เข้าถึงโลกของหนังสือ ไม่ต้องถูกกีดกันด้วยเรื่องของราคา บางครั้งหนังสือบางเล่มก็ราคาสูงเกินขนาด เมื่อเห็นหนังสือเล่มดังกล่าวตกอยู่ในสภาพเล่มละ 5 บาทแล้วทำให้ผมนึกสะใจอยู่เหมือนกัน
![]() |
ทายาทผีนรก (Spawn by Shaun Hutson) แปลโดย สุพจน์ สาธิต |
ผมซื้อนิยายผีเล่มนี้เมื่อปี พ.ศ.2542 ที่ร้านหนังสือมือสอง บริเวณตลาดจตุจักร กรุงเทพฯ ในช่วงหยุดงานวันอาทิตย์ ผมจะกลายสภาพเป็นหนอนซอนไซหนังสือไปตามร้านหนังสือแถวจตุจักร แม้ว่าราคาหนังสือแถวนั้นจะสูงกว่าที่อื่นเมื่อเทียบกับสภาพหนังสือเดียวกัน แต่ก็มีหนังสือหลากหลายให้ค้นหา ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้านหนังสือแถวจตุจักร นิยายผีก็ถูกจัดวางอย่างเป็นระบบเหมือนร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ทำให้นักอ่านสะดวกในการเลือกซื้อมากขึ้น
นิยายผีเล่มนี้ถูกห่อด้วยพลาสติก ผมไม่ทราบเนื้อหาของนิยายผีเล่มนี้มาก่อน แต่ก็จ่ายเงินหยิบมาเป็นเจ้าของทันทีที่เห็นปก เหมือนมีมนต์บางอย่างดลใจให้ผมซื้อ และนิยายผีเล่มนี้ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เพราะผมอ่านรวดเดียวจบ จากนิยายผีหนาเกือบ 500 หน้า ผมใช้เวลาอ่านไม่นานนัก นึกเสียดายด้วยซ้ำว่าจบไวเกินไป หากผมค่อยละเลียดทีละเล็กละน้อยน่าจะได้อรรถรสมากกว่านี้
ต่อจากนั้นนิยายผีเล่มนี้ก็ติดตามผมไปทุกหนทุกแห่งเหมือนกับนิยายผีทั้ง 4 เล่มที่กล่าวมาทั้งหมด ตลอดเวลา 10 ปีที่นิยายผีทั้ง 5 เล่มอยู่กับผม ถือเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าผมรักนิยายผีทุกเล่มที่ผมซื้ออ่านทั้งหมด ไม่ใช่เพียงซื้อมาสะสมหรือประดับห้องสมุดเท่านั้น แต่ผมอ่านทุกเล่มและอ่านทีละหลายจบ เพราะผมถือว่าการอ่านนิยายผีเป็นการพักผ่อนสมองประเภทหนึ่ง นักอ่านบางคนอาจแย้งว่านิยายผีทำให้สยองตรึงเครียด ไม่น่าจะถือเป็นการพักผ่อนสมองได้อย่างที่ผมกล่าว อย่างไรก็ดี พื้นฐานการอ่านของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจชอบนิยายแนวอื่นก็ยกย่องชื่นชมว่าดี ในทางกลับกันผมชอบนิยายผีก็ต้องเข้าข้างนิยายผีวันยังค่ำ ดังนั้นแต่ละคนต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านเหมือนกัน แม้แต่ข้อเขียนของผมนี้ก็เถอะ