4/25/2558

ประสบการณ์สยองคนเห็นผี

เครดิส http://pantip.com/topic/33542311
สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนนะครับ ผมเป็นคนที่เล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งเท่าไร พูดก็ไม่เก่ง ประมาณว่าคิดเร็วแต่พูดไม่ทัน พอพูดออกไปแล้วกลายเป็นลิ้นพันกัน คนฟังก็งงซะงั้นฮาาา แต่จะพยายามเล่าให้เข้าใจง่ายที่สุดนะครับ นึกอะไรออกก็จะพิมพ์ออกมา
 
    ปกติผมเป็นคนกลัวผี แต่ก็มีสติอยู่ตลอดเวลานะครับ ไม่ได้กลัวแบบเห็นอะไร เจออะไรแปลกๆแล้ววิ่งหนีอย่างเดียว แต่จะดูให้แน่ใจก่อน แอ๊ยใช่มั้ย ถ้าใช่ถึงจะออกตัว แต่ประสบการณ์ที่จะเล่าเป็นเรื่องแปลกๆซะส่วนใหญ่ หาคำตอบไม่ค่อยได้ เจอเองบ้าง คนใกล้ตัวเจอบ้าง ไม่ได้เรียบเรียงนะครับ นึกออกก็จะพิมพ์ไป จะเริ่มตั้งแต่ตอนอยู่ในท้องเลยแล้วกัน ขอเล่าเป็นตอนๆไปนะครับ
    ประมาณยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ตอนแม่ผมตั้งท้อง เรื่องนี้ไม่แปลกเท่าไร แต่น่ากลัวมากกว่า ตอนแม่ผมแพ้ท้องจะชอบกินข้าวมันไก่ ซึ่งแม่ผมทำงานโรงงานแห่งหนึ่งแถวโพธิ์แก้ว แล้วพักตรงกลางๆซอย เวลาอยากกินทีก็เดินออกมาซื้อข้าวมันไก่ที่ปากซอย
    วันนั้นโชคร้ายยังไงไม่รู้ ตอนขากลับ เดินไปพอใกล้จะถึงที่พัก ดันเห็นคนทะเลาะกัน ไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ก็ไม่ได้สนใจนึกว่าทะเลาะกันธรรมดา แต่ที่ไหนได้ พอเดินผ่านมาสักพัก ปรากฏว่าเคลียกันไม่ได้คนหนึ่งในนั้นมีปืน เลยยิงปืนกรอกเข้าไปที่ปากคนอีกที่ทะเลาะกัน แล้ววิ่งหนี แม่ผมหันไปเห็นพอดี ขาอ่อนทิ้งข้าวมันไก่ทันทีเลย หลังจากนั้นมาคนในซอยบอกว่าผีคนที่โดนยิงเฮี้ยนมาก เห็นเงานั่งร้องให้ตอนกลางคืนบ้าง มีเห็นกระโดขวางรถทำให้รถหักหลบจนล้มก็มี ซอยมันจะเป็นซอยแคบๆ ไม่ค่อยมีคน ทำให้ขนาดตอนกลางวันยังวังเวงเลย แม่ผมก็ได้เลิกกินข้าวมันไก้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาเลยครับ จะให้เดินไปคนเดียวก็คงไม่ไปฮาาาา
    ต่อมาพอผมเกิด ได้กี่ปีก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แม่เล่าให้ฟังว่า ผมขี้โรคมากอะไรนิด อะไรหน่อยก็ป่วย แต่มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผมชอบตื่นขึ้นมาตอนกลางคืน แล้วร้องไห้ เหมือนตกใจกลัว แล้วก็ร้องหนักมาก ร้องไม่หยุดเลย เป็นหลายครั้งมาก ทุกครั้งที่ผมร้อง พ่อก็จะอุ้มออกมาเดินข้างนอก ตอนดึกๆนี่แหละ ไม่พามาไม่หยุดร้อง
    แม่บอกว่าทุกครั้งก่อนจะหยุดร้อง ผมจะพูดว่ากระต่ายๆ แล้วชอบชี้ไม้ชี้มือ ซึ่งเรื่องมันอยู่ตรงนี้ ตรงที่แม่บอกว่ามันไม่มีกระต่ายสักตัว เพราะบ้านเราอยู่ในซอย แล้วในซอยไม่มีป่า ตอนนั้นผมตอพูดได้แล้วนิดหน่อย เช้าวันหนึ่งแม่ถามผมเล่นๆว่า เห็นอะไรตอนกลางคืน แม่บอกว่าผมพูดว่า กระต่ายตาแดง มีคนเอากระต่ายมาให้ หลังจากนั้นพอผมร้องไห้ตอนดึกๆ แม่ผมก็จะกลัวมากๆ เวลาจะพาผมออกไปเดินตอนกลางคืนกับพ่อ ต้องเปิดไฟทุกดวงในบ้านกันเลยทีเดียว สักพักอาการมันก็หายไปเองโดยไม่ทราบสาเหตุ
 
    พอผมเริ่มจำความได้ อาการมันก็กลับมาอีก มันจะเป็นช่วงหัวค่ำแทน ตอนนี้ผมเริ่มจำความได้แล้วนะครับ แต่อาการคือไม่ได้ร้องแบบตกใจกลัวครับ แต่อยู่ดีๆก็สะอื้นขึ้นมาแทน  แบบไม่มีน้ำตา คล้ายๆกำลังร้องไห้ ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะร้องทำไม แต่มันจะรู้สึกเหมือนใจหาย ไม่มีความสุข เป็นอยู่ได้สองสามวัน แม่ผมใจไม่ดี กลัวเราจะมีอาการทางจิต เลยพาไปหาหมอ หมอก็บอกว่า อาจเป็นเพราะเล่นมาเหนื่อย หรือง่วงนอน แม่ผมเลยลองให้ผมอยู่แต่ในบ้านไม่ต้องไปเล่นกับเพื่อน สองวัน แต่อาการก็ยังไม่หาย สุดท้ายก็ต้องพึ่งทางวัด
    เรื่องมันมากระจ่างตรงนี้แหละครับ แม่พาผมไปหาพระที่วันในซอย บอกเล่าอาการไป พอพูดจบซักพัก พระท่านก็บอกว่า ตัวผมมีคนตามตั้งแต่เด็ก เหมือนผมไปสัญญากับเขาว่าถ้าโตแล้ว ผมจะไปอยู่ด้วย พระท่านบอกว่า เขาเคยเอาของมาให้ผมเหมือนมัดจำว่าผมต้องไปอยู่ด้วย แต่พอผมไม่ไป เขาเลยกลับมาจะเอาไปเอง จำได้มั้ยครับว่าของนั่นคืออะไร "กระต่ายครับ" แม่กับพ่อผมลงความเห็นว่าน่าจะเป็นกระต่ายนี่แหละ ไม่ใช่กระต่ายจริงๆนะครับ แต่ที่แม่เคยถามผม แล้วผมตอบไปว่า "กระต่ายตาแดง มีคนเอากระต่ายมาให้" แม่ผมเป็นคนขี้กลัวมากๆ ได้ยินพระท่านพูดก็สั่นไปหมดเลย กลัวว่าผมจะเป็นอะไรไป ถามไปร้องไห้ไปว่ามีวิธีไหนที่จะช่วยได้บ้าง พระท่านก็บอกครับว่ามีวิธีที่จะช่วยได้ วิธีคือ "หลอกผี"
    ขอเล่าก่อนนะครับ ว่าทำไมพระท่านบอกว่าเขาจะมาเอาผมไป แต่ผมไม่ไป มันเป็นเรื่องที่พอแม่ผมได้ยินแล้วยิ่งทำให้เชื่อหนักเข้าไปอีก ก็คือ ก่อนหน้านั้น ก่อนที่ผมจะมีอาการอยู่ดีๆก็สะอื้นขึ้นมา ผมป่วยเป็นโรคประหลาด คืออยู่ดีๆก็ท้องร่วง เวียนหัว ทุกอย่างรอบตัวนี่หมุนไปหมดเลย หัวจะรู้สึกหนักๆ ไม่สามารถที่จะนั่งหรือยืนตรงๆได้เลย นั่งปุ๊บ ล้มปั๊บ ขนาดที่ว่าตอนเข้าห้องน้ำ แต่ก่อนจะเป็นส้วมซึม นั่งยองๆ ผมเข้าไปนั่งซักพักอาการกำเริบ ตัวเอนล้มลงหัวนี่มุดโถส้วมเลยครับ ดีที่ผมล้มดังมากแม่ผมได้ยินก่อนเลยรีบวิ่งมาดู ผมนี่ควบคุมไม่ได้เลย คิดถึงตอนนั้นแล้วฮาตัวเอง แต่ตอนนั้นจริงๆนี่ฮาไม่ออกเลย คิดว่าตูทำไมอายุสั้นจังวะ ทำใจไว้แล้วครับ  
    พอไปหาหมอบอกว่าเป็นโรคไทฟอยด์ ผมก็ไม่รู้ว่าอาการจริงๆมันเป็นยังไง แต่ตอนนั้นหมอไม่ได้ให้นอนโรงบาล ตรวจแล้วก็จ่ายยา กลับบ้าน สามสี่วันอาการท้องร่วงทุเลาแล้ว แต่บ้านหมุนยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ กินข้าวก็ไม่ได้อาเจียนตลอด สุดท้ายแม่เลยพาไปหาหมออีกที แต่ก่อนจะไป แม่พาแวะเข้าวัด เดินไม่ได้ก็อุ้มเข้าไปนี่แหละ ขอให้พระรดน้ำมนให้ แล้วก็ไปบนกับหลวงพ่อ ซึ่งชื่ออะไรผมก็ไมรู้ครับ จำไม่ได้เลย แม่บอกกับท่านว่าถ้าผมหายจะให้ผมบวชเณรที่วัดนี้ เสร็จแล้วก็พาไปหาหมอ คราวนี้ได้นอนโรงพยาบาลครับ อาทิตย์หนึ่ง อาการดีขึ้น หมอให้กลับบ้านได้ แม่ผมจากหน้าตาแย่มาก ร้องไห้เป็นห่วงทุกวัน ก็เริ่มยิ้มได้ ไม่รู้เป็นที่พระดี หรือหมอดี แต่ด้วยความสบายใจ ออกจากโรงพยาบาลมา อีกวันแม่ก็ให้ผมบวชเณรทันทีครับ หลังจากสึกได้สักพัก อาการสะอื้นผมก็เกิดขึ้นครับ
    มาถึงที่เล่าค้างไว้นะครับ ว่าพระท่านให้ทำการ"หลอกผี" ทำยังไง วิธีก็คือ ให้เก็บเสื้อผ้า รวมทั้งของใช้ผมทั้งหมดที่มี ใส่กระเป๋า หรือกระสอบ ซื้อตั๋วรถทัวร์ ไปที่ไหนก็ได้ ที่คิดว่าไกลที่สุด พ่อผมก็จัดการซื้อตัวจาก กรุงเทพฯ - xxx แล้วเอาของใช้ของผมกับตัวผมขึ้นรถ พร้อมจุดธูปบอกว่า อยากได้ลูกเราเราก็จะให้ ตามไปเอานะ พอรถออกก็ให้พ่อพาผมลงมา ปล่อยให้ ของใช้ของผม กับ ผี ขึ้นรถไปด้วยกัน สุดท้าย ให้ผมเปลี่ยนชื่อทั้งชื่อจิง และชื่อเล่น ชื่อเดิมผมชื่อ ณัฐพงษ์ ชื่อเล่นชื่อ บาส แล้วตั้งชื่อตามที่พระท่านให้มาคือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ฮ่าๆ ไม่บอกนะครับ) พอทำตามที่พระบอก อาการร้องให้สะอื้น ต่างๆก็หายไป จากเป็นเด็กขี้โรคก็ดูแข็งแรงขึ้น อาจเป็นเพราะ ทำตามพระบอก หรือเพราะผมป่วยหนักเลยมีภูมิต้านทานมากขึ้นก็ไม่รู้ครับ แต่ก็จะเลือกที่จะเชื่อสิ่งที่ทำให้ตัวเองสบายใจ
    ผมเคยอ่านเรื่องเล่าหลายๆเรื่องที่ลง pantip ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เล่าต่อให้จบๆทีเดียวเลย ตอนนี้เข้าใจแล้วครับ นั่งพิมพ์เฉยๆก็เหนื่อย จะพิมใส่ notepad มาลงทีเดียวมันก็ไม่ได้อารมณ์ เอาเป็นว่าค่อยๆเล่าไปเรื่อยๆดีกว่าครับ จะได้คุยกันไปด้วย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันไปด้วย เดี๋ยวมานะครับ มีเรื่องเล่าเยอะแยะเลย